ป้องกันลูกติดจอได้ด้วย 4 กฎเหล็ก 3 ข้อตกลง

Last updated: 17 มิ.ย. 2568  |  59 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ป้องกันลูกติดจอได้ด้วย 4 กฎเหล็ก 3 ข้อตกลง

หากจะห้ามลูกไม่ให้ใช้เลยก็อาจจะยากเกินไปเสียหน่อย แต่จะทำอย่างไรให้ลูกได้รับ ‘คุณ’ มากกว่า ‘โทษ’ จากสมาร์ทโฟน พ่อแม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปจัดการและควบคุมอย่างเคร่งครัดค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเสพย์ติดโทรศัพท์จนกระทบถึงการเรียนและสุขภาพ รวมถึงความสัมพันธ์ในครอบครัว และปกป้องลูกจากอันตรายที่แฝงมากับอินเตอร์เน็ต ด้วยข้อตกลง 3 ข้อ และ 4 กฎเหล็กง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
.
3 ข้อตกลงการใช้สมาร์ทโฟน
1. ให้ลูกมีส่วนรวมกำหนดระยะเวลาในการใช้
ลูกควรมีตารางการเล่นที่ชัดเจนเหมือนการกินข้าว อาบน้ำเข้านอน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกตัดสินใจร่วมกันว่า ใช้ได้วันละกี่นาที กี่โมงถึงกี่โมง และควรตั้งกฎว่า ที่ไหน เมื่อไร ที่ไม่ควรหยิบสมาร์ทโฟนมาเล่น เช่น เวลากินข้าว เวลาอ่านหนังสือ และควรกำหนดพื้นที่ในการวางสมาร์ทโฟนไว้ในพื้นที่ๆ ทุกคนมองเห็น
ที่สำคัญคือ คุณพ่อคุณแม่จะต้องรักษาและทำตามกฎที่ตั้งขึ้นกับลูกด้วย อาจตกลงบทลงโทษร่วมกันหากไม่ทำตามกฎจะทำอย่างไร
.
2. ไม่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องต่อรองไม่ว่าจะกรณีใดๆ
อย่าใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องต่อรอง เช่น กินข้าวหมดจะให้เล่นเพิ่ม 10 นาที ถ้าอ่านหนังสือเสร็จจะให้เล่นอีกครึ่งชั่วโมง เพราะถือว่าเป็นการส่งเสริมให้ลูกละเมิดกฎที่ตั้งไว้ และจะสร้างนิสัยต่อรองให้ลูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากลูกควบคุมตัวเองได้ดีต้องชมลูกให้มากๆ
.
3. กำหนดวัน Digital Detox
ใน 1 สัปดาห์ควรมีวัน Digital Detox คือเป็นวันที่งดใช้สมาร์ทโฟน 1 วัน แล้วออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอยู่กับธรรมชาติ มีเวลาคุณภาพร่วมกันอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องคอยพะวงถึงเรื่องงาน โซเชียล ลดความเครียด ความกังวล ฟื้นฟูประสาทสัมผัสทั้ง 5 และพัฒนาความสัมพันธ์ของครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น
.
.
4 กฎเหล็กเรื่องที่ลูก “ห้ามทำ” เพื่อความปลอดภัย
คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้ลูกเข้าใจถึงภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้สมาร์ทโฟน เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด เป็นกฎที่ลูกจำเป็นต้องทำตามอย่างเคร่งครัด
1. ห้ามโพสต์ข้อมูลส่วนตัวที่สามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน เช่น ชื่อ ที่อยู่ โรงเรียน เบอร์โทรศัพท์ เลขบัตรประชาชน
2. ห้ามเปิดเว็บไซต์ที่ส่อความรุนแรงและผิดกฎหมาย เช่น เว็บการพนัน เกี่ยวกับยาเสพย์ติด การฆ่าตัวตาย ฯลฯ
3. ไม่แสดงความเห็นที่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือการกล่าวหาผู้อื่นโดยไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงลงในสื่อโซเชียลทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม กระทู้ต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต เพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้อง
4. ไม่ส่งหลักฐานข้อมูลส่วนตัวให้กับคนแปลกหน้า หรือเพื่อนฝูงผ่านทางสื่อโซเชียลต่างๆ เพื่อป้องกันการแฮคข้อมูล และอาจถูกนำไปใช้ผิดกฎหมาย
.
การพูดคุยถึงข้อตกลงและกฎเหล็กร่วมกัน นอกจากจะเป็นการป้องกันไม่ให้ลูกเสพย์ติดมือถือมากเกินไปแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะในการคิดพิจารณาให้ลูกได้อีกด้วย เพราะแทนที่จะโทษแต่ลูกว่ามันแต่เล่นมือถือไม่ยอมทำอะไร แต่พ่อแม่มีหน้าที่สังเกตุเห็นปัญหาและพยายามชี้ให้ลูกเห็นว่ายังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่สนุกมากกว่าการเล่นสมาร์ทโฟนอีกมากมาย คอยดึงลูกให้ออกมาจากโลกสี่เหลี่ยมไปสำรวจโลกที่กว้างกว่านั้น และมีความสุขร่วมกัน ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการเสพย์ติดสมาร์ทโฟนและอันตราย ก็จะไม่เกิดขึ้นกับลูกอย่างแน่นอนค่ะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้