ทำไมลูกต้องนอนคว่ำทุกวัน? ประโยชน์ของการนอนคว่ำที่พ่อแม่ยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

Last updated: 12 มิ.ย. 2568  |  73 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ทำไมลูกต้องนอนคว่ำทุกวัน? ประโยชน์ของการนอนคว่ำที่พ่อแม่ยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

ทำไมลูกต้องนอนคว่ำทุกวัน? ประโยชน์ของการนอนคว่ำที่พ่อแม่ยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

การเลี้ยงลูกในยุคปัจจุบัน พ่อแม่มักหาข้อมูลจากแหล่งออนไลน์เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรงและพัฒนาการดีเยี่ยม หนึ่งในเรื่องที่พูดถึงกันมากในกลุ่มคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ คือ “การให้นอนคว่ำ” ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า จำเป็นจริงหรือ? แล้วปลอดภัยหรือเปล่า? บทความนี้จะอธิบายแบบละเอียดถึงเหตุผลที่ควรให้ลูกนอนคว่ำทุกวัน พร้อมข้อควรระวัง และเทคนิคการฝึกนอนคว่ำอย่างปลอดภัย เพื่อช่วยให้พ่อแม่เข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้จริง



นอนคว่ำคืออะไร?

“การนอนคว่ำ” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Tummy Time คือการวางให้เด็กทารกนอนคว่ำในช่วงเวลาตื่น ไม่ใช่ตอนนอนหลับ โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น คอ ไหล่ หลัง และสะโพก เป็นกิจกรรมที่แนะนำโดยแพทย์เด็กทั่วโลก เพราะมีส่วนช่วยให้ลูกแข็งแรงและพัฒนาตามวัยได้ดี



ประโยชน์ของการนอนคว่ำที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม

1. พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่

เมื่อลูกนอนคว่ำ เขาจะพยายามเงยหน้า ยกหัว ใช้แขนยันตัว นั่นคือการฝึกกล้ามเนื้อคอ หลัง ไหล่ และแขน ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการด้านการพลิกตัว คลาน นั่ง และยืนในอนาคต

2. ลดความเสี่ยงศีรษะแบน (Flat Head Syndrome)

การให้นอนหงายตลอดเวลาอาจทำให้กะโหลกด้านหลังของลูกแบน การนอนคว่ำจะช่วยลดแรงกดทับบริเวณศีรษะ และกระจายแรงไปยังส่วนอื่น ทำให้กะโหลกศีรษะเติบโตสม่ำเสมอ

3. กระตุ้นระบบประสาทสัมผัส

เมื่อนอนคว่ำ ลูกจะได้สัมผัสพื้นผิวหลากหลาย เช่น ผ้าห่ม เสื่อ หรือเบาะ ซึ่งช่วยกระตุ้นประสาทรับความรู้สึก ส่งผลดีต่อการเรียนรู้และพัฒนาการทางสมอง

4. เตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวในอนาคต

การนอนคว่ำคือจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้การเคลื่อนไหว เช่น การพลิกตัว การคลาน ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานของการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต เช่น เดินหรือวิ่ง

5. เสริมสร้างความมั่นใจ

การที่ลูกสามารถยกหัวหรือดันตัวเองขึ้นมาได้จากการฝึกนอนคว่ำ จะช่วยให้เขาเกิดความรู้สึกสำเร็จและมั่นใจในตนเองแม้ในวัยทารก



เมื่อลูกเริ่มนอนคว่ำได้เมื่อไร?

อายุที่แนะนำให้เริ่มฝึกนอนคว่ำคือช่วง 2-3 สัปดาห์หลังคลอด หรือเมื่อสายสะดือหลุดแล้ว โดยในช่วงแรกอาจเริ่มจากวันละไม่กี่นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาเมื่อกล้ามเนื้อของลูกแข็งแรงขึ้น โดยทั่วไปเป้าหมายคือ รวมเวลานอนคว่ำให้ได้วันละ 30-60 นาที แบ่งเป็นช่วงสั้น ๆ ครั้งละ 3-5 นาทีตลอดวัน



นอนคว่ำอย่างไรให้ปลอดภัย?

แม้การนอนคว่ำจะมีประโยชน์ แต่ก็มีข้อควรระวังเพื่อป้องกันอันตราย เช่น การขาดอากาศหายใจ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังยกหัวเองไม่ได้

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัย:
• ให้ลูกนอนคว่ำเฉพาะตอนตื่นและมีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดเสมอ
• วางลูกบนพื้นผิวเรียบและแน่น เช่น เสื่อ เบาะ หรือผ้าห่ม ไม่ควรใช้เตียงนุ่ม ๆ
• หลีกเลี่ยงของเล่นหรือผ้าห่มหนาที่อาจทำให้ลูกเอาหน้าจมลง
• เริ่มน้อย ๆ แล้วเพิ่มเวลา เพื่อให้ลูกคุ้นชิน ไม่เครียด
• ใช้ของเล่นกระตุ้นความสนใจ เช่น หาของเล่นหลากสีหรือมีเสียงไว้หน้าลูกเพื่อกระตุ้นให้เขาเงยหน้ามอง



เทคนิคฝึกให้นอนคว่ำอย่างได้ผล

1. นอนคว่ำบนอกพ่อแม่

สำหรับเด็กแรกเกิด พ่อแม่สามารถให้ลูกนอนคว่ำบนหน้าอกตนเอง ขณะนอนเอนพิงเบาะ วิธีนี้ให้ความอบอุ่นและช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับท่าคว่ำ

2. ใช้กระจกวางหน้าลูก

เด็กส่วนใหญ่ชอบมองหน้าและเงาตัวเอง การวางกระจกปลอดภัยขนาดพอดีไว้หน้าลูก จะช่วยให้เขาสนุกกับการเงยหน้า

3. ร้องเพลงหรือพูดคุยกับลูก

การส่งเสียงพูดคุยอย่างนุ่มนวล หรือร้องเพลง จะช่วยให้ลูกผ่อนคลายและรู้สึกปลอดภัยเมื่อนอนคว่ำ

4. ใช้ของเล่นหลากสี

เลือกของเล่นที่เคลื่อนไหวหรือมีเสียงกรุ๊งกริ๊งช่วยดึงดูดความสนใจ เพื่อกระตุ้นให้ลูกมองตามและขยับคอ



ทำไมบางคนไม่กล้าให้นอนคว่ำ?

หลายครอบครัวอาจกังวลว่า “นอนคว่ำจะทำให้ลูกหายใจไม่ออกหรือไม่?” คำตอบคือ ปลอดภัยหากทำในช่วงเวลาตื่นและมีผู้ดูแลใกล้ชิด เพราะที่มีความเสี่ยงจริง ๆ คือ การปล่อยให้นอนคว่ำตอนนอนหลับ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสของโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือภาวะไหลตาย ดังนั้น แนะนำว่า:
• เวลานอนหลับให้ลูกนอนหงายเสมอ
• เวลาตื่นให้นอนคว่ำอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย



คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ถ้าลูกร้องไห้ทุกครั้งเมื่อนอนคว่ำ ควรทำอย่างไร?

A: เป็นเรื่องปกติ เพราะในช่วงแรกเด็กอาจรู้สึกไม่คุ้นเคย ควรเริ่มทีละน้อย อุ้มลูกกลับขึ้นมาเมื่องอแง แล้วค่อยลองใหม่ อย่าบังคับจนลูกเครียด

Q: ลูกน้อยขี้หงุดหงิดเวลาอยู่ท่าคว่ำ แสดงว่าไม่ควรให้นอนคว่ำหรือเปล่า?

A: ควรให้นอนคว่ำต่อไป แต่อาจใช้วิธีผ่อนคลาย เช่น ให้ลูกคว่ำบนอกแม่หรือพ่อก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนไปคว่ำบนพื้นเรียบ

Q: ถ้าไม่ได้ให้นอนคว่ำตั้งแต่แรกเกิด จะสายเกินไปไหม?

A: ไม่สายเกินไป แต่อาจต้องใช้เวลามากขึ้นในการฝึกกล้ามเนื้อ เริ่มช้าได้แต่ควรทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ



สรุป: ทำไมลูกควรนอนคว่ำทุกวัน?

การนอนคว่ำไม่ใช่แค่กิจกรรมธรรมดา แต่คือก้าวแรกสู่การพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง พัฒนาการเคลื่อนไหวดีขึ้น ลดความเสี่ยงศีรษะแบน และส่งเสริมความมั่นใจในตนเอง พ่อแม่ควรเริ่มให้ลูกนอนคว่ำตั้งแต่ช่วงแรกหลังคลอด ค่อย ๆ ฝึกอย่างปลอดภัยในเวลาตื่น พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้